วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วิธีปรับสไตล์การทำงาน ป้องกัน “ออฟฟิศ ซินโดรม”


เมื่อต้องนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ โรคยอดฮิตอย่าง “ออฟฟิศ ซินโดรม” (Office Syndrome) จึงมักตามมาเป็นของคู่กันสำหรับคนทำงานออฟฟิศทั้งหลาย เพราะไล์ฟสไตล์การทำงานของคนส่วนใหญ่คือการนั่งอยู่ที่โต๊ะ

แทบจะไม่ได้ลุกไปไหน หรือไม่ได้ปรับเปลี่ยนอิริยาบทใด ๆ เป็นเวลานานหลายชั่วโมง โดยกลุ่มออฟฟิศ ซินโดรม ที่พบได้บ่อยคืออาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด ซึ่งเกิดจากรูปแบบการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ เป็นระยะเวลานานและต่อเนื่อง



หากละเลยอาการเหล่านี้ ก็อาจลุกลามจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรัง และส่งผลให้เกิดอาการของโรคทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อตามมาได้ อาทิ กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง, เอ็นรัดข้อมืออักเสบกดทับเส้นประสาท, ความผิดปกติของความตึงตัวของเส้นประสาท, กล้ามเนื้อบริเวณแขนท่อนล่างด้านนอกอักเสบ, นิ้วล็อก, เอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ, ปวดหลังจากท่าทางผิดปกติ, หลังยึดติดในท่าแอ่น

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เกิดอาการออฟฟิศ ซินโดรม คือการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ในการทำงานเสียใหม่ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตของพนักงานออฟฟิศดีขึ้นได้


ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน

- จอคอมพิวเตอร์ควรปรับให้อยู่ระดับเดียวกับสายตา (ระยะห่างประมาณ 12-18 นิ้ว) เพื่อจะได้ไม่ต้องก้มหรือเงยขณะมองหน้าจอ

- ปรับความสว่างของหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้สมดุลกับความสว่างของห้อง ไม่สว่างจ้าหรือมืดจนเกินไป เพื่อถนอมสายตาไม่ให้ทำงานหนักจนเกินไป

- นั่งทำงานให้สะโพกและหลังชิดกับพนักพิงเก้าอี้ หรือเสริมหมอนหนุนหลัง เพื่อช่วยรับน้ำหนักบริเวณกระดูกหลังส่วนล่าง ลดอาการปวดหลัง

- ปรับความสูงของเก้าอี้ให้พอดี เท้าทั้งสองข้างสัมผัสพื้นอยู่เสมอ หรือมีที่วางพักเท้าเพื่อไม่ให้เท้าลอยจากพื้น เพื่อช่วยลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อ และควรมีที่พักแขนเพื่อช่วยลดการเกร็งช่วงไหล่และแขนในขณะที่ใช้เมาส์

พักสายตาทุก 15-20 นาที

เมื่อต้องทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงานนานๆ ควรละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกๆ 15-20 นาที และให้มองไปไกล ๆ เพื่อเป็นการพักสายตาบ้าง เพราะการจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนัก และใช้สายตาเพิ่มโดยไม่รู้ตัว


เปลี่ยนอิริยาบททุก 1 ชั่วโมง

การนั่งทำงานนาน ๆ หลายชั่วโมงทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ จึงควรลุกเดินเพื่อยืดเส้นยืดสายหรือเปลี่ยนอิริยาบทบ้าง อย่างน้อยทุกๆ 1 ชั่วโมง หรือหากมีความจำเป็นต้องทำต่อเนื่องก็ควรมีเวลาได้หยุดพักประมาณ 15 นาที


ออกกำลังกายยืดกล้ามเนื้อ

ควรออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และยืดกล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการทำงาน เช่น ยืดกล้ามเนื้อคอ เพื่อลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอ และยังช่วยลดอาการปวดคอ รวมไปถึงอาการปวดร้าวไปที่ท้ายทอยและขมับได้


ไม่ละเลยการดื่มน้ำ

อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะจะทำให้เกิดการปวดกล้ามเนื้อได้ง่ายขึ้น การดื่มน้ำจะช่วยให้เกิดสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย ส่งผลให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างที่มีผลต่อการปวดและอักเสบของกล้ามเนื้อด้วย

อาทิ การสูบบุหรี่, ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ดื่มกาแฟก่อนนอน ซึ่งจะเพิ่มการตึงตัวของกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้อที่อักเสบหายได้ยากขึ้น
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วิธีลดกลิ่นตัวที่ควรทำ ถ้าไม่อยากกลิ่นแรง

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วิธีลดกลิ่นตัวที่ควรทำ ถ้าไม่อยากกลิ่นแรง


เรื่องกลิ่นหอมๆ ที่เวลาเดินผ่านแล้วมีคนได้กลิ่นจนเหลียวมองหรือมีคนชมว่าหอมจัง ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ที่สาวๆ หลายคนอยากมีเลยนะคะ แต่ว่าอาจจะด้วยสภาพอากาศหรือพันธุกรรมที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวจนหมดความมั่นใจ จะพรมน้ำหอมฟุ้งก็กลัวกลิ่นจะแรงเกิน ก็ต้องมาลดกลิ่นกันเพื่อเพิ่มเสน่ห์สร้างความมั่นใจกันหน่อยค่ะ ใครที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นตัวกวนใจ รีบตามมาดูกันเลย


1.อาบน้ำวันละ 2 ครั้ง

เรื่องความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ และเมืองไทยเป็นประเทศที่อากาศร้อนจึงทำให้เกิดเหงื่อที่เป็นสาเหตุของกลิ่นตัว ดังนั้นหากอยากลดกลิ่นตัวจำเป็นต้องอาบน้ำชำระสิ่งสกปรกและเหงื่อเช้าเย็นวันละ 2 ครั้ง หากระหว่างวันมีเหงื่อก็สามารถอาบได้อีกรอบ ถ้าอาบน้ำได้ค่ะ

2.โกนขนตรงจุดอับในร่างกาย

ขนที่ขึ้นยาวทำให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคและเหงื่อไคล เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ สาวๆ ที่มีกลิ่นตัวลองโกนขนบริเวณจุดอับของร่างกายเช่นขนรักแร้หรือขนบริเวณน้องสาว เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียและลดกลิ่นในร่างกายได้

3.ล้างน้องสาวให้สะอาด

ในช่วงที่มีประจำเดือนหรืออากาศร้อน รวมถึงหลังจากปัสสาวะ หากไม่รักษาความสะอาดให้ดี ก็จะเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้นะคะ ดังนั้นหลังจากปัสสาวะ เปลี่ยนผ้าอนามัยแล้ว ก็ต้องล้างให้สะอาดและเช็ดให้แห้ง ก็จะช่วยลดกลิ่นได้

4.พกทิชชู่เปียกติดตัวเอาไว้

สำหรับคนที่ไม่สามารถอาบน้ำระหว่างวัน เรามีตัวเลือกเช่นทิชชู่เปียกให้พกติดตัวไว้ เพราะในทิชชู่เปียกก็จะมีส่วนช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดกลิ่นกายได้ โดยระหว่างวันหากมีเหงื่อหรือเกิดกลิ่นตัว ก็ใช้ทิชชู่เปียกลูบตามตัวหรือเช็ดบริเวณรักแร้และจุดต่างๆ ในร่างกายได้ค่ะ

5.เลือกเสื้อผ้าใส่สบายไม่รัดเกินไป

สาวๆ คนไหนที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นตัว เลี่ยงการใส่เสื้อรัดรูป เพราะจะทำให้เกิดความอึดอัดและเกิดเหงื่อได้ ดังนั้นควรลองเปลี่ยนสไตล์กันสักนิด เป็นเสื้อใส่สบายๆ ไม่รัดรูป ก็จะช่วยระบายอากาศ ลดการเกิดกลิ่นตัวได้อีกวิธีค่ะ

6.ทำความสะอาดเสื้อผ้าสม่ำเสมอ

เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่ใส่ติดตัว เวลาที่เกิดเหงื่อก็จะติดเสื้อผ้าทำให้เกิดกลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ และยังเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้อีกหากไม่รักษาความสะอาด ดังนั้นหากอยากลดกลิ่นตัว ก็ต้องซักเสื้อผ้า ตากเสื้อผ้าเพื่อฆ่าเชื้อโรคตามเสื้อผ้า ก็ช่วยลดกลิ่นไม่ดีตามเสื้อผ้าได้นะคะ

7.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง

อาหารที่มีกลิ่นแรงเช่น กระเทียม สะตอ ชะอม ทุเรียนหรือเครื่องเทศต่างๆ นอกจากจะทำให้มีกลิ่นปาก ก็ยังทำให้เกิดกลิ่นตัวและยังมีฤทธ์ร้อนที่ทำให้เกิดเหงื่อ และเกิดกลิ่นไม่ดีในร่างกายได้ค่ะ ทานได้แต่ต้องทานพอดีๆ เท่านั้นค่า

8.ใช้โรลออนหรือแป้งดับกลิ่นตัว

นอกจากนี้ หลังอาบน้ำให้สดชื่นและชำระสิ่งสกปรกกันแล้ว ใครที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นตัวหนักมาก ก็เลือกใช้เป็นแป้งหรือโรลออนระงับกลิ่นตัวเป็นประจำ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แจกไอเดีย ทรงผมธรรมชาติ ตื่นมาก็เป็นแบบนี้เลยจ้า


วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2563

แจกไอเดีย ทรงผมธรรมชาติ ตื่นมาก็เป็นแบบนี้เลยจ้า

สาวๆ คนไหนกำลังมองไอเดียที่มีความเป็นธรรมชาติ ทรงผม Wake up like this. เหมือนเพิ่งตื่นนี่แหละตอบโจทย์ที่สุด เชื่อสิว่าทำแล้วมีปังอ่ะ ฟีลแบบตื่นมาง่ายๆ ยังไม่ได้ทำอะไรเลยแต่สวยละ แหมๆ งานนี้สาวๆ เห็นแล้วต้องอยากทำตามแน่ๆ จะมีทรงไหนบ้าง ตามมาดูกันได้เลยยยย
















เป็นยังไงบ้างคะสาวๆ ทรงผมธรรมชาติ Wake up like this. ตื่นมาก็สวยเลยที่เรานำมาฝาก ความธรรมชาติแบบเซอร์ๆ เสมือนสาวสวยตั้งแต่ตื่นสวยกระแทกใจสาวๆ กันรึเปล่า ถ้าสาวๆ ชื่นชอบก็อย่าลืมทำตามกันดูนะ เชื่อเลยว่าต้องถูกใจแน่ๆ งานดี งานพรีเมี่ยมเบอร์นี้ ไม่ทำตามไม่ได้แล้ว สวยๆ เซอร์ๆ ตามสไตล์สาวสายชิลแบบเรากันเถอะ จัดซักทรงสิจ้ะรออะไร
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ต้นไม้มงคล ปลูกในบ้าน เสริมดวงรับทรัพย์

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ต้นไม้มงคล ปลูกในบ้าน เสริมดวงรับทรัพย์

1. วาสนา

ต้นวาสนาถือเป็นไม้เสี่ยงทายคนไทยโบราณ ชื่อต้นวาสนามีความเป็นสิริมงคล โดยเชื่อกันว่าหากปลูกต้นวาสนาไว้ในบ้านและดูแลอย่างดีจนต้นวาสนาออกดอก จะช่วยให้คนในครอบครัวนั้นได้รับโชคลาภ ปรารถนาสิ่งใดก็จะได้ดังหวัง อีกทั้งยังจะส่งเสริมให้มีความเจริญรุ่งเรือง และเสริมความมั่งคง ลักษณะของพันธุ์ไม้ชนิดนี้มีใบเรียม แหลม ยาว สีเหลือง หรือสีขาวอมเหลือง ดอกวาสนามีสีขาวไปจนถึงสีชมพู มีกลิ่นหอม
2. ว่านเศรษฐีเรือนใน


จุดเด่นของว่านนี้คือใบเรียวยาวขอบสีเขียวและมีเส้นสีขาวตรงกลาง มีสรรพคุณที่ช่วยดูดสารพิษภายในอาคารที่พักอาศัย เป็นพืชที่ไม่ค่อยชอบน้ำ รดน้ำเพียงสัปดาห์ละครั้งและตั้งอยู่ในที่แดดรำไร ส่วนความเชื่อเกี่ยวกับการเสริมดวงนั้น ว่ากันว่าว่านชนิดนี้จะช่วยป้องกันอันตรายและเป็นว่านเสี่ยงทายเรื่องโชคลาภ
3. กวักมรกต


โบราณเชื่อกันว่าต้นกวักมรกตเป็นไม้ประดับที่มีชื่ออันเป็นสิริมงคล และยังเป็นไม้เสี่ยงทายอีกด้วย กล่าวคือหากสามารถปลูกได้งอกงามจนมีดอก เจ้าของผู้ปลูกจะมีโชคลาภ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าผู้ที่ปลูกจะโชคดี ปรารถนาอะไรก็มักจะสมหวัง
4. ว่านรวยไม่เลิก


ว่านรวยไม่เลิกเป็นไม้อวบน้ำ ตระกูลเดียวกับกระบองเพชร ลักษณะของใบจะนิ่มๆ เหมือนยางและด้านบนจะมีจุดๆ สีเขียวเข้มบนพื้นใบสีเขียวอ่อนเหมือนใบเป็นรอยช้ำ การดูแลรักษาง่ายมากๆ แค่ให้แสงแดดรำไรส่องถึงต้นและรดน้ำให้ชุ่มเพียงวันละ 1 ครั้ง ส่วนความเชื่อเกี่ยวกับต้นไม่ชนิดนี้ว่ากันว่าบ้านไหนปลูกจะทำให้รวยตลอดไปเหมือนชื่อต้น และถ้าเลี้ยงดูแลจนออกดอกเมื่อไร เชื่อกันว่าเจ้าของจะมีโชคลาภมาถึงมือแบบฉับไว
5. เงินไหลมา


เงินไหลมาเป็นพรรณไม้เลื้อยที่มีเถายาว ลำต้นมีสีเขียวและกลมเกลี้ยง ใบเป็นแฉกประมาณ 5 แฉกลึกเข้าหาโคนใบ ส่วนปลายใบเรียวแหลม พื้นใบมีสีเขียวปนเหลือง ไม้มงคลชนิดนี้เพียงแค่ชื่อเสียงเรียงนามก็รู้แล้วว่าเป็นมงคล และมีความเชื่อว่าหากปลูกไม้ประดับชนิดนี้ไว้ในบ้านเงินทองจะไหลมาตามชื่อ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เคล็ดลับ ในการสัมภาษณ์งาน ให้ได้งาน